Wednesday, July 1, 2015

สหัสภุชสหัสเนตรอวโลกิเตศวรโพธิสัตวไวปุลยสัมปุรณอกิญจนมหากรุณาจิตธารณีสูตร มหากรุณาธารณี

Chenrizg_1000
มหากรุณาธารณี เป็นบทสวดสำคัญในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน เป็นธารณีประจำองค์พระอวโลกิเตศวร ปางพันหัตถ์พันเนตร มีต้นกำเนิดจากพระสูตรมหายานภาษาสันสกฤตของอินเดีย พระภควธรรมเถระชาวอินเดียนำเข้าไปแปลในประเทศจีนสมัยราชวงศ์ถัง และมีฉบับแปลเป็นภาษาทิเบตด้วย มหากรุณาธารณีเป็นมนตร์อันเกิดจากความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระอวโลกิเตศวรที่มีต่อสรรพสัตว์ที่ตกทุกข์ในโลก   ในคัมภีร์กล่าวว่าธารณีนี้มีชื่อต่าง ๆ กัน เช่นมหาไวปุลยสัมปุรณธารณี, อกิญจนมหากรุณาธารณี, อายุวัฒนธารณี, วิกรมอุตตรภูมิธารณี, มโนมัยอิศวรธารณี เป็นต้น อักษรหนึ่งตัวและประโยคหนึ่งในบทธารณีมนตร์นี้ ล้วนขยายเป็นอรรถธรรม อันจะนำเข้าถึงพระสัมมาสัมโพธิญาณ
ประวัติ
ในประเทศไทยธารณีสูตรฉบับนี้ได้แปลโดยหลวงจีนคณาจีนพรต (เย็นบุญ) เจ้าอาวาสวัดทิพย์วารีวิหาร แขวงบ้านหม้อ เขตพระนคร กรุงเทพ ในคัมภีร์สันสกฤตของมหายานคือคัมภีร์ “สหัสภุชสหัสเนตรอวโลกิเตศวรโพธิสัตวไวปุลยสัมปุรณอกิญจนมหากรุณาจิตธารณีสูตรมหากรุณามนตระ” นำเข้าไปแปลในจีนโดยพระภควธรรม ชาวอินเดีย ในสมัยราชวงศ์ถัง ได้กล่าวถึงบทสวดธารณีแห่งพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร คือ มหากรุณาหฤทัยธารณี อันจะยังอานิสงส์ความศักดิ์สิทธิ์ให้บังเกิดขึ้นแก่ผู้สวดนานัปการ
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรพันหัสต์พันเนตร รูปเคารพของพระอวโลกิเตศวรมีอยู่หลายปาง ทั้งภาคบุรุษ ภาคสตรี ไปจนถึงปางอันแสดงลักษณาการที่ดุร้าย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการปราบมารคือสรรพกิเลส แต่ปางที่สำคัญปางหนึ่งคือปางที่ทรงสำแดงพระวรกายเป็นพันหัสถ์พันเนตร ซึ่งมีเรื่องราวปรากฏในพระสูตรสันสกฤตคือ สหัสภุชสหัสเนตรอวโลกิเตศวรโพธิสัตวไวปุลยสัมปุรณอกิญจนมหากรุณาจิตรธารณีสูตรมหากรุณามนตร์ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า มหากรุณาธารณีสูตร (大悲咒) นำเข้าไปแปลในจีนโดยพระภควธรรมชาวอินเดีย ในสมัยราชวงศ์ถัง ได้กล่าวถึงบทสวดธารณีแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นี้ คือ “มหากรุณาหฤทัยธารณี” เนื้อหากล่าวถึงเมื่อครั้งที่พระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ โปตาลกะบรรพต ในกาลนั้นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ได้ขอพุทธานุญาตแสดงธารณีมนตร์อันศักดิ์สิทธิ์ไว้เพื่อเป็นที่พึ่งแก่สรรพสัตว์ ซึ่งธารณีนี้ย้อนไปในครั้งกาลสมัยของพระพุทธเจ้านามว่าพระสหัสประภาศานติสถิตยตถาคต พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นได้ตรัสธารณีนี้แก่พระอวโลกิเตศวร และตรัสว่า “สาธุ บุรุษ เมื่อเธอได้หฤทัยธารณีนี้ จงสร้างประโยชน์สุขสำราญแก่สัตว์ทั้งหลายในกษายกัลป์แห่งอนาคตกาลโดยทั่วถึง”
          ตามเนื้อความของพระสูตรได้กล่าวว่า ในขณะนั้น เมื่อพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ได้สดับมนตร์นี้แล้ว ก็ได้บรรลุถึงภูมิที่ ๘ แห่งพระโพธิสัตว์เจ้า จึงได้ตั้งปณิธานว่า “ในอนาคตกาล หากข้าพเจ้าสามารถยังประโยชน์สุขแก่สรรพสัตว์ได้ ขอให้ข้าพเจ้ามีพันเนตรพันหัตถ์ในบัดดล” เมื่อท่านตั้งปณิธานดังนี้แล้ว พลันก็บังเกิดมีพันหัสถ์พันเนตรขึ้นทันที และเพลานั้นพื้นมหาพสุธาดลทั่วทศทิศก็ไหวสะเทือนเลื่อนลั่น พระพุทธเจ้าทั้งปวงในทศทิศก็เปล่งแสงโอภาสเรืองรองมาต้องวรกายแห่งพระโพธิสัตว์ และฉายรัศมีไปยังโลกธาตุต่าง ๆ อย่างปราศจากขอบเขต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า เนื่องจากปณิธานอันยิ่งใหญ่ของพระโพธิสัตว์ หากเหล่ามนุษย์และทวยเทพ ตั้งจิตสวดมหากรุณาธารณี มนตร์นี้คืนละ ๗ จบ ก็จะดับมหันตโทษจำนวนร้อยพันหมื่นล้านกัลป์ได้ หากเหล่ามนุษย์ทวยเทพสวดคาถามหากรุณาธารณีนี้ เมื่อใกล้ชีวิตดับ พระพุทธเจ้าทั้ง ๑๐ ทิศจะยื่นพระกรมารับให้ไปอุบัติในพุทธเกษตรทุกแห่ง
จากเรื่องราวในพระสูตรนี้ทำให้เกิดการสร้างรูปพระโพธิสัตว์พันหัสถ์พันเนตร อันแสดงถึงการทอดทัศนาเล็งเห็นทั่วโลกธาตุและพันหัสต์แสดงถึงอำนาจในการช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ บทสวดในพระสูตรนี้เป็นภาษาสันสกฤตผสมภาษาท้องถิ่นโบราณในอินเดีย ที่หลงเหลือมาในปัจจุบันมีหลายฉบับที่ไม่ตรงกัน ทั้งในฉบับทิเบต ฉบับจีนซึ่งมีทั้งของพระภควธรรม พระอโมฆวัชระ ฯลฯ ต่อมาได้มีการค้นคว้าและปรับปรุงให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์โดย Dr.Lokesh Chandra และตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อ ค.ศ.1988 เป็นบทสวดสำคัญประจำองค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ที่พุทธศาสนิกชนมหายานสวดกันอยู่โดยทั่วไป
บทสวดนี้เป็นที่นับถือและสวดบูชาพระอวโลกิเตศวร  กันอยู่ทั่วไปในหมู่พุทธศาสนิกชน ตั้งแต่อินเดียเหนือ เนปาล ทิเบต ไปจนถึงจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี มหากรุณาธารณีนี้เป็นบทสวดของพระอวโลกิเตศวรปางพันหัตถ์พันเนตร ในคัมภีร์ระบุว่า ผู้ที่เลื่อมใสถวายสักการะต่อพระอวโลกิเตศวรอยู่เป็นเนืองนิตย์ ตั้งใจสวดสรรเสริญพระนาม ย่อมจะถึงพร้อมในกุศลทั้งปวง สามารถยังวิบากกรรมอันมิมีประมาณให้สิ้นสูญ ครั้นเมื่อวายชนม์จะไปอุบัติ ณ สุขาวดีโลกธาตุแห่งองค์พระอมิตาภพุทธเจ้า
คาถาสวดบูชาเจ้าแม่กวนอิม
บทสรรเสริญพระคุณ  นะโมกวงซิอิม ผ่อสัก
  • นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ
  • กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)
  • นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ
  • กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)
  • นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ
  • กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)
นำโมฮูก นำโมหวบ นำโมเจ็ง นำโมกิวโคว่ กิวหลั่ง กวงสี่อิมผู่สัก ทั่งจี้โต
โอม เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวดโต
ซาผ่อออ เทียงล้อซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั้งลี่หลั่ง หลั่งลี่ซิ้ง เจ็กเฉียก ใจเอียง ห่วยอุ่ยติ๊ง
นำโมม่อออป่อเยี๊ยปอล้อบิ๊ก (กราบ)
บทสวดมนต์ฮ่งไป่กวงอิม(สรรเสริญกิตติคุณพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม)
  • ม้อเอี่ยซาผ่อออ จี้ซิมกุยเหม่งลี่
  • กวงอิมผ่อสักไต่ฉื่อปุย กิ่วโต่วจงเซ็งบ่อจิงตี้
  • จ๋อชิ่วจิบปั๊งกำโหล่วจุ้ย อิ๋วชิ่วจิบกีเอี่ยงลิวกี
  • เท้าเจี่ยเต็งจุงอยู่ไหล่ฮุก เข้าตังเสี่ยเหนี่ยมออหนี่ท้อ
  • อู่นั้งเหนียมติกกวงอิมจิ่ว ฮวยแคฮ่วยจ่อแปะโหน่ยตี๊
  • เจียวเหนี่ยมกวงซี่อิม หมอเหนียมกวงซี่อิม
  • จี่เต็กลิ้มตังกวงซี่อิม แปะโหน้ยตี๊ตังกวงซี่อิม
  • ฉิ่มเซียกิ้วโค่วกวงซี่อิม แปะโชยบ่วงเอ็กกวงซี่อิม
  • หกต่อฮุ้งตังคงลี่หิ่ง หกต่อกังโอ้วหลั่งหลีชิ้ม
  • หกต่อเอี้ยงกังกิ้วจิกโค่ว หกต่ออิมฮู่โต่วจงเซ็ง
  • หยิกยิกสี่ซี้ไหล่กิ้วโค่ว สี่ซี้กิ้วโค่วปุกหลี่ซิง
  • ง้อกิมกี๋ซิ่วไป้กวงอิม หยุ่ยหงวงกวงอิมกั้งไหล่ลิ้ม
  • ไต่ฉื่อปุยกิ้วโค่วหลั่ง นำมอเหล่งก้ำกวงซี่อิม
  • ผ่อสักหม่อฮอสัก นำมอออนี้ถ่อหุก
  • นำมอออนี้ถ่อหุก นำมอออนี้ถ่อหุก
คำแปล
ขอนมัสการพระรัตนตรัยด้วยจิตตั้งมั่นในหลักของศาสนาที่จะเข้าถึงธรรมะขอน้อมระลึกถึงพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมผู้ทรงมีมหาเมตตาเป็นอนันต์ที่ทรงช่วยเหลือสัตว์โลกให้พ้นจากวัฏฏะโดยไม่มีขอบข่ายพระหัตถ์ซ้ายของพระองค์ทรงถือแจกันน้ำอมฤตที่สามารถปราบมารได้และพระหัตถ์ขวาทรงถือกิ่งหลิวอันศักดิ์สิทธิ์ไว้สำหรับประพรมน้ำอมฤตบนเศียรทรงสวมรัตนมาลาที่มีสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้าพระองค์ทรงหมั่นสวดมนต์ภาวนาระลึกถึงพระพุทธเจ้าอมิตาภะอยู่เสมอผู้ใดหมั่นภาวนาพระคาถาบูชาพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมจนขึ้นใจย่อมที่จะพ้นจากทุกข์ร้อนและได้รับความร่มเย็นเหมือนดั่งความเย็นชื่นแห่งสระบัวขาวขอน้อมจิตระลึกถึงพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเสมอทั้งเวลาเช้าและเย็นขอน้อมจิตระลึกถึงพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมที่ทรงเร้นพระวรกายอยู่ในป่าไผ่ขอน้อมจิตระลึกถึงพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมที่ทรงประทับอยู่บนดอกบัวขาวในโบกขรณีขอน้อมจิตระลึกถึงพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมที่ทรงบำบัดทุกข์ตามเสียงพร่ำเรียกของสัตว์โลกขอน้อมจิตระลึกถึงพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมที่ทรงอยู่ห่างเราเป็นหมื่นเป็นแสนโยชน์บางครั้งพระองค์จะทรงปรากฏพระวรกายอยู่บนปุยเมฆเพื่อช่วยเหลือเราบางครั้งพระองค์จะทรงดั้นด้นในท่ามกลางคลื่นลมของแม่น้ำและมหาสมุทร เพื่อทรงค้นหาและช่วยเหลือเราบางครั้งพระองค์จะทรงบำบัดทุกข์ให้สัตว์โลกในมนุษยโลกบางครั้งพระองค์จะทรงช่วยเหลือสัตว์ในนรกโลกทุกๆวันทุกๆเวลาขออ้อนวอนพระองค์ให้เสด็จมาทรงช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้แก่เราทุกๆเวลาขอให้พระองค์เสด็จมาอยู่ใกล้ๆเราพื่อทรงขจัดทุกข์ในวโรกาสนี้ข้าน้อยขอสักการบูชาพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมด้วยความเคารพยิ่งและหวังว่ากระแสแห่งการสักการบูชานี้ คงจะกระทบถึงพระองค์ให้ทรงรับทราบและเสด็จมาโปรดข้าน้อยทั้งหลายบ้างข้อน้อมสักการในน้ำพระทัยอันล้ำลึกของพระองค์ผู้ทรงเป็นพระมหาโพธิสัตว์ซึ่งขจัดทุกข์ให้แก่สัตว์โลกได้นะโมอนันตพุทธะ
บทสวดมหากรุณาธารณีสูตร
โชยชิ่ว โชยงั่ง บ่อไหง๋ ไต่ปุยซิมทอลอ นีจิ่ว (๓ จบ)
ปึงซือออนีทอ ยูไล้ (๓ จบ)
  • นำมอ ฮอลาตัน นอตอลา เหย่ เย
  • นำมอ ออลีเย ผ่อลูกิดตีซอปอลาเย
  • ผู่ทีสัตตอพอเย หม่อฮอสัตตอพอเย
  • หม่อ ฮอเกียลูนี เกียเยงัน สัตพันลาฮัวอี
  • ซูตัน นอตันเซ
  • นำมอ สิดกิด ลีตออีหม่งออลีเย
  • ผ่อลูกิด ตีสิด ฮูลาเลงถ่อพอ
  • นำมอ นอลา กินซี
  • ซีลี หม่อฮอพันตอซาเม
  • สะพอ ออทอ เตาซีพง
  • ออซีเย็น สะพอ สะตอ นอมอ พอสะตอ
  • นอมอ พอเค มอฮัว เตอเตา
  • ตันจิต ทองัน ออพอ ลูซี
  • ลูเกียตี เกียลอตี อีซีลี
  • หม่อฮอ ผู่ทีสัตตอ สัตพอ สัตพอ
  • มอลา มอลา มอซี มอซี ลีทอยิน
  • กีลูกีลูกิดมง ตูลู ตูลู ฟาเซเยตี
  • หม่อ ฮอฮัว เซเยตี ทอลา ทอลา
  • ตีลีนี สิด ฮูลาเย เจลา เจลา มอมอ ฮัวมอลา หมกตีลี
  • อีซี อีซี สิดนอ สิดนอ ออลาซัน ฮูลาเซลี
  • ฮัวซอ ฮัวซัน ฮูลา เซเย
  • ฮูลู ฮูลู มอลา ฮูลู ฮูลู ซีลี ซอลา ซอลา
  • สิดลี สิดลี ซูลู ซูลู ผู่ถี่เย ผู่ถี่เย ผู่ถ่อเย ผู่ถ่อเย
  • มีตีลีเย นอลา กินซี ตีลีสิด นีนอ
  • ผ่อเย มอนอ ซอผ่อฮอ สิดถ่อเย ซอผ่อฮอ
  • หม่อฮอ สิดถ่อเย ซอผ่อฮอ สิดทอยีอี
  • สิดพันลาเย ซอผ่อฮอ นอลากินซี ซอผ่อฮอ
  • มอลานอลา ซอผ่อฮอ สิดลาเซง ออหมกเคเย
  • ซอผ่อฮอ ซอผ่อหม่อฮอ ออสิดถ่อเย ซอผ่อฮอ
  • เจกิดลา ออสิดถ่อเย ซอผ่อฮอ ปอทอมอกิดสิดถ่อเย
  • ซอผ่อฮอ นอลากินซี พันเคลาเย ซอผ่อฮอ
  • มอพอลี เซงกิดลาเย ซอผ่อฮอ
  • นำมอห่อลาตัน นอตอลาเหย่เย
  • นำมอออลีเย ผ่อลูกิตตี ชอพันลาเย ซอผ่อฮอ
  • งัน สิดตินตู มันตอลา ปัดถ่อเย ซอผ่อฮอ
คำแปลและความหมาย โดยย่อ
1 )นำมอ ห่อลาตันนอตอลาเหย่เย
๑. นำ มอ ฮอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย่ เย
นำ มอ – ความนอบน้อม
ฮอ ลา ตันนอ – ความเป็นรัตนะ
ตอ ลา เหย่ – 3
เย – นมัสการ
ขอนอบน้อมนมัสการพระไตรรัตน์ทั้งสาม
หมายถึง..การน้อมเอาพระไตรสรณคมน์, พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึกผู้ต้องการปฏิบัติให้ถึงพระองค์จะต้องสาธยายมนตราด้วยความมีเมตตากรุณาและเปี่ยมด้วยศรัทธา
ไม่ควรสวดด้วยเสียงอันดัง เกรี้ยวกราด และเร่งร้อน
2)นำมอ ออหลี่เย
๒. นำ มอ ออ ลี เย
นำ มอ – ความนอบน้อม
ออ ลี – องค์อริยะ
เย – นมัสการ
ขอนอบน้อมนมัสการแด่องค์พระอริยะ ผู้ห่างไกลจากบาปอกุศล
วัตถุประสงค์แห่งบทนี้… พระโพธิสัตว์ทรงสั่งสอนชาวโลกให้ปฏิบัติทางจิตเป็น
มูลฐาน พระสัทธรรมทั้งหลายล้วนกำเนิดมาแต่จิต
เหตุนี้ผู้ปฏิบัติจะต้องมีความชัดแจ้งแห่งจิต และมองเห็นสภาวะแห่งตน จึงจะ
สามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ
เมื่อไม่แจ้งชัดในจิตก็ไม่สามารถเห็นสภาวะแห่งตน หากแต่จิตเป็นอจล มีความ
มั่นคง ก็สามารถเดินทางสู่พระนฤพานได้
3)ผ่อลูกิตตี ชอปอลาเย
๓. ผ่อ ลู กิด ตี ซอ ปอ ลา เย
ผ่อ ลู กิด ตี – การเพ่ง พิจารณา อีกนัยหนึ่งคือความสว่าง
ซอ ปอ ลา – เสียงของโลกอันเป็นอิสระ
เย – นอบน้อมนมัสการ
ขอนอบน้อมคารวะแด่องค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ผู้เพ่งเสียงแห่งสรรพสัตว์ผู้ยาก
พระโพธิสัตว์ผู้สงสารชีวิตแห่งสรรพสัตว์ผู้ตกอยู่ในกองทุกข์ เขาเหล่านั้นล้วนมี
ความทุกข์อันเกิดจากการหลงลืมสภาวะเดิมของตน จำต้องเวียนว่ายอยู่ใน
สังสารวัฏ พระองค์พิจารณาตามนี้ จึงเกิดเมตตาจิตที่จะโปรดสัตว์
4)ผู่ที สัตตอผ่อเย
๔. ผู่ ที สัต ตอ พอ เย
ผู่ ที (โพธิ) – ตรัสรู้
สัต ตอ (สัตว์) – การมีชีวิต อารมณ์
พอเย – น้อมคารวะ
ขอนอบน้อมคารวะต่อผู้ให้ความตรัสรู้แก่ทุกชีวิต
…หากตั้งใจในธรรม นอบน้อมต่อความแจ้งในสภาวะเดิม ก็จะถึงความหลุดพ้น
5.หม่อฮอสัตตอผ่อเย
๕. หม่อ ฮอ สัต ตอ พอ เย
หม่อ ฮอ – ใหญ่มาก
สัต ตอ – สัตว์โลก หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึง ผู้กล้าหาญ
พอ เย – น้อมคารวะ
เมื่อน้อมคารวะผู้กล้าหาญก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้น มวลสรรพสัตว์ในโลกอันไพศาล ถ้ารู้สึกตัวแล้วลงมือปฏิบัติ ล้วนถึงความหลุดพ้นได้
6. หม่อฮอเกียลูหนี่เกียเย
๖. หม่อ ฮอ เกีย ลู นี เกีย เย
หม่อ ฮอ -ใหญ่มาก
เกีย ลู – กรุณา
นี เกีย – จิต
เย – คารวะ
ขอนอบน้อมคารวะต่อผู้มีมหากรุณาจิต
7.งัน (โอม)
๗. งัน
งัน (โอม) – นอบน้อม
ขอนอบน้อม บูชาถวาย
แด่พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีความเมตตากรุณาไม่มีประมาณ นำสัทธรรมอันเป็นความดับสูญโดยแท้จริง ปลุกให้มนุษย์ฟื้นคืนสภาวะเดิมที่มีอยู่ เข้าถึงสัทธรรมอันบริสุทธิ์
8.สัตพันลาฮัวอี
๘. สัต พัน ลา ฮัว อี
สัต พัน ลา – อิสระ
ฮัว อี – อริยะ
องค์อริยะผู้อิสระ ผู้มีกายใจอันบริสุทธิ์สะอาด
กาย ใจ จะบริสุทธิ์ได้ ต้องตั้งอยู่ในสัจธรรม ปฏิบัติตนอยู่ในศีล
9.ซูตันนอตันแซ
๙. ซู ตัน นอ ตัน เซ
การปฏิบัติธรรมต้องถือความสัจเป็นพื้นฐาน ใช้ความเพียรเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุสู่อริยสัจ
หากการปฏิบัติธรรมไม่ประกอบด้วยความสัจ ก็จะไม่พบหนทางสู่ความสำเร็จ เนื่องจากความสัจนั้นเป็นธรรมที่ปราศจากการหลอกลวง จิตจึงรวมเป็นหนึ่งได้ เมื่อมีความสัจ ก็จะมีความเข้าใจ เมื่อเข้าใจก็จะมองเห็นความปลอดโปร่ง เมื่อปลอดโปร่งก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลง และกลับกลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
10.นำมอสิดกิตหลี่ตออีหม่งออหลี่เย
๑๐. นำ มอ สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง ออ ลี เย
นำ มอ – นอบน้อม
สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง – ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระพุทธเจ้าและพระ
โพธิสัตว์ทั้งหลาย
ออ ลี เย – การปฏิบัติธรรมจะรีบร้อนให้ได้ผลในทันทีย่อมเป็นไปไม่ได้
ฉะนั้นผู้ที่จะน้อบน้อมเข้าถึงองค์อริยะ จำต้องปฏิบัติธรรมโดยมานะพากเพียร มีจิตใจมั่นคงเป็นหนึ่ง จะกระทำโดยเร่งรีบไม่ได้  ต้องทำใจให้ว่างเข้าถึงองค์แห่งพระธรรมคัมภีร์ หมั่นในการปฏิบัติตามหลักธรรม มีความคิดดำริมั่นที่จะก้าวข้ามห้วงแห่งโอฆะ คิดจะกระทำประโยชน์แก่สรรพชีวิต
11.ผ่อลูกิตตีซือฮูลาเลงถ่อพอ
๑๑. ผ่อ ลู กิด ตี สิด ฮู ลา เลง ถ่อ พอ
ผ่อ ลู กิด ตี – จิตต้องกับธรรม
สิด ฮู ลา – ท่องเที่ยวไปอย่างอิสระ
เลง ถ่อ พอ – เนื่องด้วยสำเร็จในมรรคผล
…ผู้ปฏิบัติต้องจงใจมุ่งไปข้างหน้า ฝึกฝนให้กายและจิตรวมเป็นหนึ่ง (เอกัคคตา)
12.นำมอนอาลากินชี
๑๒. นำ มอ นอ ลา กิน ซี
นำ มอ – นอบน้อม
นอ ลา กิน ซี – การคุ้มครองคนดี นักปราชญ์ นักปฏิบัติ
..ด้วยความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์ ทรงย้ำเตือนให้ยึดถือพระไตรสรณาคมน์ ต้องปฏิบัติตนอยู่ในมนุษยธรรม ทำตนเป็นตัวอย่างเพื่อให้สาธุชนรุ่นหลังได้รับรู้เป็นแบบอย่างและเจริญรอยตามสาธุชนผู้ปฏิบัติตามพระพุทธองค์และพระธรรมยิ่งต้องมีความเมตตากรุณาจิตและโพธิจิตเพื่อโปรดสัตว์ รักษาพระธรรมยิ่งกว่าชีวิตและเผื่อแผ่ทั่วไปไม่มีประมาณ
13ซีหลี่มอฮอพันตอซาแม
๑๓. ซี ลี หม่อ ฮอ พัน ตอ ซา เม
ซี ลี หม่อ ฮอ – ความเมตตากรุณาอันไพศาล สามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขได้
พัน ตอ ซา เม – ผู้มีบุญวาสนาจะได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้า มารทั้งหลายไม่สามารถ
มารบกวนได้
…พระโพธิสัตว์เล็งเห็นว่าชาวโลกถือเอาความรวย, มีชื่อเสียง, ศักดินา เป็นที่นิยมศรัทธา อันเป็นการเพิ่มพูนความทุกข์ พระองค์จึงเตือนจิตให้มนุษย์ จงผ่อนใจในทางโลก โน้มน้าวจิตใจมาในทางมรรคผล เมื่อจิตว่างแล้ว พระสัทธรรมอันพิสุทธิ์ก็จะเจริญขึ้น
14 สัตผ่อออทอเตาซีพง
๑๔. สะ พอ ออ ทอ เตา ซี พง
สะ – การได้เห็น
พอ – เสมอภาค
ออ – พระสัทธรรมอันบริสุทธิ์
ทอ เตา ซี พง – ธรรมไม่มีขอบเขต
…ทุกคนที่ปฏิบัติสามารถรู้ได้เห็นได้ และบรรลุสู่พระพุทธภูมิได้โดยเสมอกัน
15 ออซีเย็น
๑๕. ออ ซี เย็น
ผู้ที่ทำความดีย่อมได้รับการชมเชย ผู้ทำบาปจะต้องสำนึกและขอขมาโทษ
16 สัตผ่อสัตตอ นอมอผ่อสัตตอ นอมอผ่อเค
๑๖. สะ พอ สะ ตอ นอ มอ พอ สะ ตอ นะ มอ พอ เค
สะ พอ สะ ตอ – พุทธธรรมอันไม่มีขอบเขตสิ้นสุด สรรพสัตว์ในโลกนี้ล้วนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้
นอ มอ พอ สะ ตอ – พุทธธรรมเป็นความเสมอภาค มิได้แบ่งแยกเป็นสูงหรือต่ำ
นะ มอ พอ เค – พุทธธรรมมีความไพศาล ผู้ปฏิบัติตามจะสามารถระงับภยันตรายทุกสิ่ง
…ไม่ว่านักปราชญ์หรือผู้โง่เขลา เบาปัญญา คนหรือสัตว์ ล้วนสามารถหลุดพ้นได้ ถ้าเขาเหล่านั้นปฏิบัติธรรมด้วยความสัจ
17.มอฮัวเตอเตา
๑๗. มอ ฮัว เตอ เตา
ผู้ปฏิบัติต้องถือพระสัทธรรมเป็นสูญ ไม่ข้องแวะ ไม่ติดในรูป ไม่ยึดในจิต ถือเอาสัจธรรมเป็นใหญ่ และต้องละความวิตกกังวล กำจัดความโกรธ ความโลภ ความหลง โดยใช้หลักแห่งปัญญาดับกิเลสให้จิตสงบ เป็นอยู่ในโลกนี้โดยสันติสุข
18.ตันจิตทอ
๑๘. ตัน จิต ทอ
ความศรัทธาจริงอันต่อเนื่องกัน จิตต้องตรงกับพระธรรม ห้ามมิให้มีความคิดทางโลกเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ เนื่องจากว่าหากปล่อยให้ความคิดทางโลก เกิดขึ้นในจิต กาย ใจ ก็จะไม่บริสุทธิ์ ทำให้เกิดการขัดแย้งกับพระธรรม ไม่อาจจะพบความสันติสุขได้
19.งันออผ่อลูซี
๑๙. งัน ออ พอ ลู ซี
งัน – นอบน้อม เป็นบทนำ
ออ พอ ลู ซี – เป็นพระโพธิสัตว์ หมายถึงพระธรรมคือความสะอาดจิตสะอาดสดใสไร้ราคะ
ผู้ปฏิบัติธรรมต้องมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยว ไม่หวั่นไหวต่อการก่อกวนของเหล่ามาร(กามกิเลส) หากสามารถตั้งจิตข่มจิตสำรวมกาย วาจา และจิต ละทิ้งโลกาวิสัยทั้งหมดก็จะเข้าถึงพุทธสภาวะที่มีอยู่เดิม
.. ถ้าทำให้จิตมีความสงบนิ่งอยู่ทุกขณะ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ก็จะมีความสำเร็จในธรรมโดยมิรู้ตัว ..พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ รวมทั้งพระโพธิสัตว์เจ้าได้หลุดพ้นในขณะที่อยู่ในโลกอันมากล้นไปด้วยกิเลสนี้
20.ลูเกียตี
๒๐. ลู เกีย ตี
เป็นโลกนาถ มีความเป็นอิสระ
…มีกุศลจิตสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มัวหมอง มีรัศมีสว่างรอบกาย และสามารถร่วมกับดินฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รักษาความมีกุศลจิต อย่าทำลายตนเอง อย่าหลงผิดเป็นชอบ สิ่งสำคัญ…ต้องรักษาจิตให้บริสุทธิ์
21 เกียหล่อตี
๒๑. เกีย ลอ ตี
ผู้มีความกรุณา ผู้ปลดปล่อยทุกข์ เป็นผู้มีจิตในทางธรรม ดำรงมรรคมั่นคง มีสติปัญญาเฉียบแหลมยิ่งใหญ่
…เมื่อจิตมีความสงบก็สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งชั่วร้ายให้กลับกลายเป็นดี
22 อีซีหลี่
๒๒. อี ซี ลี
กระทำตามโอวาท อย่ามีจิตหลงผิด
23.หม่อฮอผู่ทีสัตตอ
๒๓. หม่อ ฮอ ผู่ ที สัต ตอ
หม่อ ฮอ – ความไพศาลของพุทธธรรม ทุกคนน้อมนำไปปฏิบัติได้
ผู่ที – เห็นโลกนี้เป็นสูญ
สัต ตอ – การเน้นปฏิบัติอนัตตธรรม มองเห็นสรรพธรรมเป็นสูญ
มองความรุ่งเรืองแห่งลาภยศ สรรเสริญเป็นสูญ มองให้เห็นเป็นเงาลวง ทำจิตใจร่างกายให้หมดจด
24.สัตพอสัตพอ
๒๔. สัต พอ สัต พอ
พุทธธรรมมีความเสมอภาค อีกทั้งยังอำนวยประโยชน์สุขแก่สัตว์โลก ผู้ที่มีปัจจัยแห่งบุญย่อมได้รับความสุข
25.มอลามอลา
๒๕. มอ ลา มอ ลา
ผู้ปฏิบัติจะได้มีมโนรถแก้วมณี แก้วมณีนี้แจ่มใสไม่มีอะไรขัดข้อง
…ความคิดคำนึงเกิดมาแต่จิต จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธานแห่งบุญและบาป ผู้ปฏิบัติต้องกำจัดความคิดอันเป็นอกุศล ความคิดฟุ้งซ่าน ระงับความวิตกกังวล เพียรพยายามเสาะหาสัจธรรม ชำระล้างอายตนะภายในให้สะอาดพิสุทธิ์ ละความห่วงใยใดๆให้สิ้นเชิง
26.มอซีมอซี ลีถ่อเย็น
๒๖. มอ ซี มอ ซี ลี ทอ ยิน
มอ ซี – ความมีอิสระทันที ผู้ปฏิบัติไม่มีเวลาใดที่ไม่เป็นอิสระคือมีอิสระทุกเมื่อ
ลี ทอ ยิน – การปฏิบัติกระทั่งสำเร็จวิชชาธรรมกาย มีอาสน์ดอกบัวรองรับ
โดยปกติแล้วผู้ที่มีจิตว่างก็จะมีความสะอาดทั้งกายและจิต เมื่อลงมือปฏิบัติแล้วก็สามารถบรรลุมรรคผลได้ และก็จะตั้งอยู่เช่นนั้น ไม่มีวันเสื่อมถอย
27.กีลู กีลู กิตมง
๒๗. กี ลู กี ลู กิด มง
กี ลู – การเกิดความคิดปฎิบัติธรรมสามารถบันดาลให้เทพเจ้ามาปกปักรักษา
กิด มง – ผู้ปฏิบัติจะต้องสร้างสมบุญบารมีเพื่อเป็นพื้นฐานในการบรรลุสู่มหามรรค (มรรคผล-นิพพาน)
28.ตูลู ตูลู ฮัวแซเหย่ตี
๒๘. ตู ลู ตู ลู ฟา เซ เย ตี
ตู ลู – ผู้ปฏิบัติจะต้องยืนให้มั่นตั้งใจปฏิบัติ ไม่หลุ่มหลงด้วยพวกเดียรถี มีความแน่วแน่ มีสมาธิ มีความสงบ
ฟา เซ เย ตี – มีความบริสุทธิ์อันยิ่งใหญ่สามารถข้ามพ้นสังสารวัฏได้
29.หม่อฮอฮัวแซเหย่ตี
๒๙. หม่อ ฮอ ฮัว เซ เย ตี
พระสัทธรรมอันไพศาล สามารถระงับความเกิดดับแห่งกิเลสได้ ภัยพิบัติต่างๆไม่แผ้วพาน ทุก
คนสามารถสำเร็จเป็นพุทธะได้เหมือนหัน
กำจัดความหลงผิด ความเห็นแก่ตัว ปล่อยวางปัจจัยทางโลก
30.ทอลาทอลา
๓๐. ทอ ลา ทอ ลา
เมื่อปฏิบัติจิตให้มีสภาพเหมือนอากาศอันโปร่งใส ไร้ละอองธุลีแม้แต่น้อย ก็จะได้ไปเกิดใน
สวรรค์ชั้นพรหมได้
31.ตีลีนี
๓๑. ตี ลี นี
ตี – โลก
ลี – สัตว์ทั้งหลายล้วนสามารถรับการโปรดได้
นี – พรหมจาริณีที่ปฏิบัติธรรมอยู่
32สึดฮูลาเย
๓๒. สิด ฮู ลา เย
เมื่อปฏิบัติธรรมเข้าถึงความสมบูรณ์แห่งสภาวะเดิมแล้ว จะมีความสว่างปรากฏในกายของตน
33.เจลาเจลา
๓๓. เจ ลา เจ ลา
ความโกรธ ดุ สุรเสียงที่เปล่งออกมาดุจเสียงคำรามของฟ้า กระหึ่มไปทั่วสารทิศ
ธรรมเหมือนดังฟ้าร้องคำรามไปทุกสารทิศ เป็นเสียงแห่งพรหมเมื่อเหล่ามารได้ยินศัพท์สำเนียงนี้ ก็จะเกิดความสะดุ้งกลัว
34.มอมอฮัวมอลา
๓๔. มอ มอ ฮัว มอ ลา
มอ มอ – การกระทำดี สามารถทำลายความกังวลแห่งภยันตรายได้
ฮัว มอ ลา – ธรรมะเป็นสิ่งลึกซึ้ง เข้าใจยาก และมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถประมาณ หรือ
คาดคิดได้ เป็นประโยชน์ที่ไม่มีสิ่งใดทัดเทียม
35.หมกตีลี
๓๕. หมก ตี ลี
หลุดพ้น
ผู้ปฏิบัติได้เช่นนี้ ย่อมบรรลุสู่ภูมิแห่งพุทธ
36.อีซีอีซี
๓๖. อี ซี อี ซี
การชักชวนตามพระศาสนา ทุกสรรพสิ่งให้ดำเนินไปตามธรรมชาติ
ทุกสิ่งปล่อยให้ดำเนินไปตามเหตุปัจจัยปรุงแต่ง อย่าฝืนกระทำตามใจชอบ
37.สึดนอสึดนอ
๓๗. สิด นอ สิด นอ
เป็นมหาสติ มีจิตใจมั่นคงสามารถเข้าสู่มหาปัญญา
..ผู้ปฏิบัติธรรม มีความสว่างแห่งสติปัญญาอยู่ ถ้าใช้จิตนี้เป็นฐานใช้ธรรมให้เป็นประโยชน์ ก็จะได้รับฐานธาตุที่สดชื่น  แต่หากไม่มีจิตใจมั่นคงกำจัดกิเลสในตนไม่หมด ก็ไม่มีทางที่จะให้ความว่างแห่งสติปัญญาที่มีอยู่ดั้งเดิมปรากฏออกมาได้เลย
38.ออลาซันฟูลาแซลี
๓๘. ออ ลา ซัน ฮู ลา เซ ลี
ออ ลา ซัน – ความผ่านธรรมไปถึงธรรมราชา มีความอิสระในธรรม
ฮู ลา เซ ลี – การได้พระธรรมกายอันบริสุทธิ์ ได้ดวงแก้วแห่งพระรัตนะ
39.ฮัวซอฮัวซัน
๓๙. ฮัว ซอ ฮัว ซัน
ฮัว ซอ – ผู้ที่มีธรรม ตั้งอยู่ในขันติธรรม
ฮัว ซัน – ผู้บรรลุธรรม มีความสุขอันแท้จริงยากจะบรรยาย
เป็นการอนุโมทนาตามเหตุตามปัจจัย…ความสุขที่แท้จริง จะต้องได้จากการปฏิบัติที่ยากลำบาก ถ้าสามารถอดทนต่อความยาก ลำบากก็จะเข้าถึงความสุขอันยิ่งได้
40.ฟูลาแซเย
๔๐. ฮู ลา เซ เย
จะต้องมีความรู้ด้วยตนเอง ผู้จะบรรลุธรรมหากสามารถละการยึดเกี่ยวเข้าถึงสภาวะดั้งเดิม ก็จะพบพระพุทธเจ้าได้ทุกพระองค์
41.ฮูลูฮูลูมอลา
๔๑. ฮู ลู ฮู ลู มอ ลา
การประกอบพิธีตามปรารถนา ประกอบพิธีกรรมไม่ละจากตัวตน
42. ฮูลูฮูลูซีลี
๔๒. ฮู ลู ฮู ลู ซี ลี
การประกอบธรรม โดยปราศจากความคิดคำนึงมีความเป็นอิสระสูง
43. ซอลาซอลา
๔๓. ซอ ลา ซอ ลา
ผู้ปฏิบัติเพียงแต่มีความมุ่งมั่น มีความเพียรพยายามอย่างต่อเนื่อง มีจิตอันเป็นหนึ่งเดียว ก็จะได้เห็นองค์พระโพธิสัตว์
44.ซิดลีซิดลี
๔๔. สิด ลี สิด ลี
ความเป็นมหามงคลอันสูงสุด สามารถอำนวยประโยชน์ และคุ้มครองสรรพสัตว์โดยไม่ละทิ้ง
45. ซูลูซูลู
๔๕. ซู ลู ซู ลู
น้ำอมฤตทานสามารถอำนวยประโยชน์แก่สัตว์โลกทั้งปวง
46. ผู่ถี่เย ผู่ถี่เย
๔๖. ผู่ ถี่ เย ผู่ ถี่ เย
การตรัสรู้ธรรม ตรัสรู้ถึงภูมิจิต ผู้ที่ปฏิบัติจะต้องมีความวิริยะพากเพียรอย่างแรงกล้า ปฏิบัติทุกวันทุกคืนเสมอต้นเสมอปลายไม่ท้อถอย
47. ผู่ถ่อเย ผู่ถ่อเย
๔๗. ผู่ ถ่อ เย ผู่ ถ่อ เย
เป็นการรู้ในธรรม รู้ในจิต ผู้ปฏิบัติจะต้องถือ “ตัวเขา-ตัวเรา” เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่เพียงแต่ไม่เห็นลักษณะตัวเขาตัวเรา แม้สรรพสัตว์ในทุคติ ก็ต้องถือว่าเท่าเทียมกับเรา
48.มีตีหลี่เย
๔๘. มี ตี ลี เย
มหากรุณา ให้ผู้ปฏิบัติต้องเจริญเมตตากรุณาจิต เพื่อให้สรรพสัตว์เข้าถึงโพธิมรรค
รักในตนเองเท่าใด ก็ให้รักผู้อื่นเท่านั้น
49.นอลากินชี
๔๙. นอ ลา กิน ซี
นักปราชญ์ผู้รักษาตนเองได้ มีมหากรุณาจิต
ผู้ปฏิบัติจะต้องเคารพนักปราชญ์ เห็นผู้ทำดีจะต้องช่วยกันรักษา ผู้ที่เกิดความท้อถอยก็ต้องส่งเสริมให้กำลังใจ
50.ตีลีสิดนีนอ
๕๐. ตี ลี สิด นี นอ
ความคมของวัชระ ให้คนเรามีความมั่นคงในการปฏิบัติธรรม
51.ผ่อเยหม่อนอ
๕๑. ผ่อ เย มอ นอ
สุรเสียงก้องไปสิบทิศ เป็นสุรเสียงแห่งความปิติยินดี
52.ซอผ่อฮอ
๕๒. ซอ ผ่อ ฮอ
ความสำเร็จผล มงคล นิพพาน ระงับภัยเพิ่มพูลประโยชน์ พระสัทธรรมไม่เกิดไม่ดับ เป็นสภาวะอันสงบมาแต่เดิม
53.สิดถ่อเย
๕๓. สิด ถ่อ เย
ความสำเร็จในธรรมทั้งหลาย เข้าถึงพระวิสุทธิมรรคปราศจากขอบเขตอันจำกัด สรรพสัตว์เพียงแต่ละวางจากลาภยศชื่อเสียง ก็จะเข้าถึงความหลุดพ้นได้
54. ซอผ่อฮอ
๕๔. ซอ ผ่อ ฮอ
ผู้ปฏิบัติถ้าเห็นแจ้งในพระสัจธรรมและความหลอกลวง(ไม่แท้) ก็จะสำเร็จได้ง่าย
55.หม่อฮอสิดถ่อเย
๕๕. หม่อ ฮอ สิด ถ่อ เย
ความไพศาลของพระพุทธธรรม ผู้ใดน้อมนำไปปฏิบัติจะสำเร็จในพระพุทธผล
56. ซอผ่อฮอ
๕๖. ซอ ผ่อ ฮอ
เน้นย้ำประโยชน์ในการปฏิบัติธรรม
57.สิดถ่อยีอี
๕๗. สิด ทอ ยี อี
สิด ทอ – ความสำเร็จ
ยี อี – ความว่างเปล่า
ทวยเทพเจ้าต่างได้รับความสำเร็จอันเป็นความว่างเปล่า (สุญญตาธรรม)
58 สิดพันลาเย
๕๘. สิด พัน ลา เย
เป็นความอิสระสมบูรณ์ เป็นการกล่าวถึงบรรดาเทพีที่ต่างสำเร็จในอิสระธรรม
59.ซอผ่อฮอ
๕๙. ซอ ผ่อ ฮอ
อสังสกฤตธรรมนั้น เป็นสภาวธรรมที่สมบูรณ์โดยอิสระ เป็นการประกาศมหามรรคที่ยิ่งใหญ่มีผลที่ลึกซึ้ง
60.นอลากินชี
๖๐. นอ ลา กิน ซี
ความสำเร็จด้วยความรัก ความเมตตากรุณา การปกปักษ์รักษา
61.ซอผ่อฮอ
๖๑. ซอ ผ่อ ฮอ
แสดงถึงความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์
62.มอลานอลา
๖๒. มอ ลา นอ ลา
มอ ลา – มโนรถ ความหวัง ความประสงค์
นอ ลา – อนุตตรธรรม
การปฏิบัติอนุตตรธรรมสมดังประสงค์
63.ซอผ่อฮอ
๖๓. ซอ ผ่อ ฮอ
พระโพธิสัตว์มุ่งเน้นให้คนปฏิบัติธรรม อีกทั้งยังเปิดเผยหัวใจอันลึกซึ้งของมหามรรคนี้
64.สิดลาเซ็ง ออหมกเคเย
๖๔. สิด ลา เซง ออ หมก เค เย
เป็นการแสดงความรักของพระโพธิสัตว์ต่อหมู่ชน
65 ซอผ่อฮอ
๖๖. ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ ออ สิด ถ่อ เย
ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ – สัตว์ทุกประเภทมีความเสมอภาคเท่าเทียมกันสามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิได้เหมือนกัน
ออ สิด ถ่อ เย – สรรพสัตว์มีโอกาสร่วมรับความสุขสบายทั่วถึงกัน
บุคคลมีขันติธรรมก็จะเข้าถึงธรรมได้ด้วยดี สามารถสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ไม่จำกัด
67.ซอผ่อฮอ
๖๗. ซอ ผ่อ ฮอ
(ต่อเนื่องกับบทก่อน) ความเมตตาอันสูงสุด
68.เจกิดลาออสิดถ่อเย
๖๘. เจ กิด ลา ออ สิด ถ่อ เย
เจ กิด ลา – การใช้วชิรจักรปราบเหล่ามาร
ออ สิด ถ่อ เย – ความสำเร็จอันไม่มีสิ่งใดเทียบได้
การใช้วชิรธรรมจักร ปราบเหล่ามารศัตรูได้รับความสำเร็จ
69.ซอผ่อฮอ
๖๙. ซอ ผ่อ ฮอ
(ต่อเนื่องกับบทก่อน) สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนสำเร็จในความบริสุทธิ์ได้ จึงไม่ควรประกอบอกุศลกรรมทั้งหลาย
70.ปอทอมอกิตสิดถ่อเย
๗๐. ปอ ทอ มอ กิด สิด ถ่อ เย
ปอ ทอ มอ กิด – พุทธธรรมเป็นธรรมที่ไม่มีขอบเขต จะต้องปฏิบัติเพื่อได้รับความสุขร่วมกัน
สิด ถ่อ เย – ย้ำเตือนให้ผู้ปฏิบัติจะต้องประกอบด้วยสติปัญญาเพื่อการหลุดพ้น ละจากกิเลส
71.ซอผ่อฮอ
๗๑. ซอ ผ่อ ฮอ
(ต่อเนื่องกับบทก่อน) ผู้ปฏิบัติไม่ยึดในทางใดทางหนึ่ง ปฏิบัติโดยการพิจารณา พร้อมทั้งมีหิริโอตตัปปะ
..มรรคผลนั้นสำเร็จได้ด้วยตนเอง สำเร็จได้ด้วยการพิจารณาในทุกขณะจะต้องพิจารณาจิตของตน รักษาไว้ในทุกเหตุปัจจัยไม่ให้วิตกจิตเกิดขึ้นได้
72.นอลากินชี พันเคลาเย
๗๒. นอ ลา กิน ซี พัน เค ลา เย
นอ ลา กิน ซี – รักษาไว้ด้วยความเป็นภัทร
พัน เค ลา เย – เถระเพ่งโดยอิสระ
เป็นที่รักของผู้เจริญ เป็นที่รักของพระอริยะ
73.ซอผ่อฮอ
๗๓. ซอ ผ่อ ฮอ
(ต่อเนื่องกับบทก่อน) การปฏิบัติให้ถือเอาสัมมาจิต และความมีสัจเป็นหลัก
74.มอพอลีเซ็งกิตลาเย
๗๔. มอ พอ ลี เซง กิด ลา เย
มอ พอ ลี เซง – ผู้กล้า
กิด ลา เย – สภาวะเดิม
คุณธรรมจะสำเร็จได้ ด้วยสภาวะแห่งเมตตาธรรม หากจิตตั้งอยู่ในอกุศลก็ย่อมเป็นการยากที่จะสำเร็จพระอนุตตรธรรม
75.ซอผ่อฮอ
๗๕. ซอ ผ่อ ฮอ
เป็นการรวมเอาพระคาถาทั้งหมดแห่งมหากรุณาธารณีสูตรมาไว้ในประโยคนี้ มีนัยบ่งบอกถึงความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์ เพื่อโปรดเหล่าสรรพสัตว์ทั้งปวงให้ได้รับหิตานุหิตประโยชน์ มีพระสัมมาสัมโพธิเป็นหลักชัย
76.นำมอห่อลาตันนอตอลาเหย่เย
๗๖. นำ มอ ห่อ ลา ตัน นอ ตอ ลา เย เย
เน้นย้ำให้พยายามควบคุมกายใจไม่ให้ลื่นไหลไปตามอารมณ์ที่มากระทบ โน้มนำเอาฌานสมาธิเพ่งการเกิดการดับ
77.นำมอ ออหลี่เย
๗๗. นำ มอ ออ ลี เย
เป็นการสาธยายมนต์สรรเสริญพระอริยะ และกล่าวย้ำถึงการปฏิบัติธรรม ต้องละความเป็นตัวตน, บุคคล, เรา-เขา จึงสามารถไม่ให้เกิดความคิดนึกอันเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ได้
ความนึกคิดติดยึดไม่เกิด ความเข้าใจถึงธรรมก็จะเป็นที่หวังได้
78.ผ่อลูกิตตี
๗๘. ผ่อ ลู กิต ตี
พระสัทธรรมไม่มีความสิ้นสุด บรรดาผู้ปฏิบัติธรรมย่อมมีความบริสุทธิ์เป็นเครื่องอยู่ นำทางสู่แดนสุขาวดี
มีการเกิดย่อมต้องมีการตาย  มีความชนะย่อมต้องมีความพ่ายแพ้…แต่ชาวโลกผู้ตกอยู่ภายใต้อวิชชากลับยินดีต่อการเกิดเกลียดชังความตาย ท้ายที่สุดก็ต้องตายอยู่นั่นเอง ฉะนั้นหากต้องการรอดพ้นจากความตาย จะต้องค้นหาความเป็นในความตายให้ได้เสียก่อน
79.ชอพันลาเย
๗๙. ชอ พัน ลา เย
ผู้ปฏิบัติต้องสำรวมตาเห็นรูป ไม่ปรุงแต่งไปตามรูปที่มองเห็น
80.ซอผ่อฮอ
๘๐. ซอ ผ่อ ฮอ
(ต่อเนื่อง) สำรวมหูฟังเสียง ไม่ปรุงแต่งไปตามเสียงที่ได้ยิน
81.งัน สิตตินตู
๘๑. งัน สิด ติน ตู
สำรวมจมูกดมกลิ่น ไม่ปรุงแต่งไปตามกลิ่นที่จมูกดม
82.มันตอลา
๘๒. มัน ตอ ลา
สำรวมลิ้นรับรส ไม่ปรุงแต่งไปตามรสที่ลิ้นรับ
83.ปัดถ่อเย
๘๓. ปัด ถ่อ เย
สำรวมกายถูกต้องสัมผัส ไม่ปรุงแต่งไปตามที่ร่างกายถูกต้องสัมผัส
84.ซอผ่อฮอ
๘๔. ซอ ผ่อ ฮอ
สุดท้ายสำรวมใจรับรู้อารมณ์ ไม่ปรุงแต่งให้เกิดอารมณ์ใดๆที่ใจรับรู้ รวมเรียกว่า สำรวมอินทรีย์ ๖ อันมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ บรรลุเป็นโพธิสัตว์อันบริสุทธิ์
600360xvsgb84lnz
  • พระคาถามหากรุณาธารณีสูตร(ภาษาบาลี)
นะโมรัตนะตรายายะ นะโมอารยะ อวโลกิเตศะวะรายะ
โพธิสัตตะวายะ มหาสัตตะวายะ มหากรุณิกายะ
โอม สะวะละวะติ ศุททะนะ ตัสสะยะ นมัสกฤต วานิมาง อาระยะ
อวโลกิเต ศะวะระลันตะภา นะโม นิลากันถะ
ศรีมหาปะฎะศะมิ สระวาทวะตะศุภัม อสิยูม สะระวะสัตตะวะ
นะโมปะวะสัตตวะ นะโมภะคะมะภะเตตุ ตัทยะถา
โอมอวโลกา โลกาเต กาละติ อิศีลี มหาโพธิสัตตะวะ
สาโพสาโพ มะรามะรา มะศิมะศิ ฤธะยุ
คุรุคุรุฆามัม ธูรูธูรูภาษียะติ
มหาภาษียะติ ธาระธาระ ถิรินี ศะวะรายะ ชะละชะละ
มามะภา มะละมุธิริ เอหิเอหิ ศินะศินะ
อาละลินภะละศรี ภาษาภาษิน การะศะยะ หูลุหูลุมะระ หุลุหุลุศรี
สะระสะระ สีรีสีรี สุรุสุรุ พุทธายะพุทธายะ โพธายะโพธายะ
ไมตรีเยนิละกันสะตะ ตรีสะระณะ ภะยะมะนะ สวาหา
สีตายะ สวาหา มหาสีตายะ สวาหา
สีตายะเย ศะวะรายะ สวาหา
นีลากันถิ สวาหา มะละนะละ สวาหา
ศรีสิงหะมุขายะ สวาหา สะระวะ มหาอัสตายะ สวาหา
จักระอัสตายะ สวาหา ปัทมะเกสายะ สวาหา
นีละกันเต ปันตะลายะ สวาหา โมโผลิศัง กะรายะ สวาหา
นะโม รัตนะตรายายะ นะโมอารยะ อวโลกิเต
ศะวะรายะ สวาหา
โอมสิทธะยันตุ มันตรา ปะทายะ สวาหา.
พระคาถาบทสั้นเพื่อขมาเจ้าแม่กวนอิม
* น่ำ บ้อ กวน ซี อิม ผ่อ สัก*
อีกบทสวดต่อเนื่องกันไป
นะโมโพธิสัตโต นะโมพุทธายะ
อิติสุขะโต อะระหังพุทโธ
อาคันติมายะ นะมะพะทะ
นะโมพุทธายะ พุทธะรัตตะนัง
ปะถะวีคงคา ธัมมะรัตตะนัง
พระภุมมะเทวา อิติภะคะวา
สังฆะรัตตะนัง ขะมามิหัง

3 comments:

  1. ขอบคุณค่ะที่แบ่งปัน หาอ่านยากมากค่ะ ข้ออนุญาติพริ้นออกมาเก็บไว้อ่านค่ะ

    ReplyDelete
  2. ขาดตอนที่ ๖๕ ค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ReplyDelete
  3. คำอธิบายที่ ๖๕ หายไป(มีแต่รูป) ส่วนรูปที่ ๖๖ หายไปค่ะ (มีแต่คำอธิบาย) ขอบคุณค่ะ

    ReplyDelete